ทำความรู้จักกับอาการหูชั้นนอกอักเสบ จนนำไปสู่อาการร้ายแรงอย่างหูหนวก !

หูหนวก
February 4, 2024

หูชั้นนอกอักเสบ (Acute Otitis Externa) เป็นโรคที่พบบ่อยอันดับต้นๆ ของแผนกหูคอจมูก ส่วนใหญ่มักเกิดจากการที่คนไข้ทำความสะอาดช่องหูโดยการแคะหรือปั่นหูบ่อยๆ หรือมีประวัติปวดหูหลังว่ายน้ำ การติดเชื้อบริเวณนี้อาจเป็นการอักเสบเฉพาะที่หรือในบางรายที่การติดเชื้อลามไปอาจกลายเป็นฝีหนองในช่องหูได้ อาการที่พบบ่อยคือ คันในรูหู ปวดหู หูอื้อ ได้ยินลดลง อาจมีน้ำเหลืองหรือหนองไหลออกจากช่องหู บางรายที่ติดเชื้อจนเป็นฝีหนองอาจมีไข้ร่วมด้วยได้

ทำความรู้จักกับอาการหูชั้นนอกอักเสบ จนนำไปสู่อาการร้ายแรงอย่างหูหนวก !

สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของหูชั้นนอกอักเสบ จนนำไปสู่อาการร้ายแรงอย่างหูหนวก ได้แก่ การว่ายน้ำหรือแช่น้ำในสระว่ายน้ำที่มีเชื้อโรค น้ำในสระว่ายน้ำอาจปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา ซึ่งอาจเข้าสู่หูชั้นนอกได้ง่าย การแคะหรือปั่นหูบ่อยๆ การแคะหรือปั่นหูบ่อยๆ จะทำให้ผิวหนังในรูหูอ่อนแอลง และอาจทำให้เชื้อโรคเข้าสู่หูได้ง่าย การใส่ที่อุดหูหรือหูฟังเป็นเวลานานๆ การใส่ที่อุดหูหรือหูฟังเป็นเวลานานๆ อาจทำให้น้ำหรือความชื้นสะสมในหู ซึ่งอาจเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค โรคผิวหนังบางชนิด เช่น โรคสะเก็ดเงิน โรคภูมิแพ้ผิวหนัง เป็นต้น โรคผิวหนังบางชนิดอาจทำให้ผิวหนังในรูหูอักเสบได้ง่าย โรคบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง เป็นต้น โรคบางชนิดอาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง ซึ่งอาจทำให้เชื้อโรคเข้าสู่หูและทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย

วิธีการรักษาหูชั้นนอกอักเสบ (Acute Otitis Externa) ทำความสะอาดรูหูอย่างถูกต้อง โดยที่รพ.จะใช้เครื่องมือดูดหนองหรือของเหลวออกจากหู ยาหยอดหูเพื่อฆ่าเชื้อเฉพาะที่ ซึ่งแพทย์จะสั่งยาให้ตามความเหมาะสมเนื่องจากการติดเชื้อนั้นอาจจะเป็นเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา โดยหยอดวันละ3-4ครั้งตามแพทย์แนะนำ กรณีที่ช่องหูบวมมาก อาจมีการใส่ผ้าก๊อซชิ้นเล็กๆชุบยาฆ่าเชื้อผสมสเตียรอยด์เพื่อลดบวมร่วมด้วย หากหูชั้นนอกบวมอักเสบมากหรือเป็นฝีหนอง แพทย์อาจให้รับประทานยาฆ่าเชื้อเพื่อรักษาการติดเชื้อ อาจรับประทานยาแก้ปวดตามอาการเช่น NSAID , Paracetamol กรณีรับประทานยาหรือหยอดยาฆ่าเชื้อแต่ไม่ดีขึ้น อาการปวดรุนแรงมาก มีไข้ เป็นฝีหนองขนาดใหญ่ แพทย์อาจให้การรักษาโดยให้ยาฆ่าเชื้อทางหลอดเลือดและนอนรพ.เพื่อติดตามอาการ

คำแนะนำเพิ่มเติม หากมีอาการปวดหู คันในหู หรือมีน้ำเหลืองหรือหนองไหลออกจากหู ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที หากจำเป็นต้องใช้ยาหยอดหู ควรใช้ตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด หากมีประวัติเป็นโรคเบาหวานหรือภูมิคุ้มกันบกพร่อง ควรระมัดระวังเป็นพิเศษในการว่ายน้ำหรือแช่น้ำในสระว่ายน้ำ

Tags: